How to เตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก รีวิวนี้มีคำตอบ!

20 Aug 2018

หากพูดถึงประเทศยอดฮิตที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกันในช่วงหลายๆปีมานี้ คงหนีไม่พ้นญี่ปุ่นอย่างแน่นอน เพราะไม่ต้องทำวีซ่าแล้ว เดินทางไม่ไกลมาก แถมมีเที่ยวบินตรงราคาถูกจำนวนมากออกมาให้เลือกจับจองกันไม่ขาดสาย แถมยังเป็นประเทศที่มีภูมิทัศน์สวยงาม วัฒนธรรมที่น่าไปศึกษา และ อาหารที่อร่อย มาก !

รีวิวนี้เขียนขึ้นมาเพื่อแนะนำว่าถ้าเพื่อนๆคนไหนยังไม่เคยไปญี่ปุ่น และอยากไปเที่ยวแบบวางแผนเอง ไม่ได้ไปกับทัวร์ รีวิวนี้มีคำตอบให้แน่นอนแบบ step by step กันเลย

1. เตรียมหนังสือเดินทางให้พร้อม

อันนี้สำคัญมาก หากไม่มีพาสปอร์ตก็ออกนอกประเทศไม่ได้นะจ๊ะ และพาสปอร์ตจะต้องมีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือนนับตั้งแต่วันเดินทางอีกด้วย โดยสามารถเช็คสถานที่ทำพาสปอร์ตได้ตามนี้เลย >> http://bit.ly/2MiIp7m
2. ตั๋วเครื่องบิน

ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการบินไปญี่ปุ่นเยอะมากๆ วันนึงก็มีหลายไฟลท์ ทั้ง Full service และ low cost โดยจากประสบการณ์หากเป็น low cost ก็ควรวางแผนกันล่วงหน้าประมาณ 6 เดือนจะได้ตั๋วราคาโปรที่ออกมาพอดี หรือถ้า full service 3 เดือนล่วงหน้าก็จะได้ราคาดีนะ แต่แนะนำให้เช็คเรื่อยๆเพราะโปรโมชั่นออกมากันค่อนข้างบ่อยมาก

3. ประกันเดินทาง

ไปญี่ปุ่นซื้อประกันที่ไหนดีน้า? หลายคนอาจจะมองข้ามการทำประกัน แต่เราบอกเลยว่าสำคัญมากๆ เราทำประกันเดินทางทุกครั้งที่ไปเที่ยว และเคยได้ใช้มาแล้ว 2 ครั้ง เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ได้คาดการณ์ไว้แน่ๆ ครั้งนึงเราโดยรถชน อีกครั้งหกล้มขาเจ็บ โชคดีมากว่ามีประกัน เคลมได้ทั้งหมดเลย

เรามีประกันมาแนะนำสำหรับเดินทางไปญี่ปุ่น ของ SOMPO (ซมโปะ) ประกันภัย ข้อดีคือ เราไม่ต้องสำรองจ่ายในกรณีต้องเข้าโรงพยาบาล โดยจะต้องโทรเข้า SOMPO ASSIST ที่เบอร์ +662-205-7775 จะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินระหว่างเดินทาง เจ้าหน้าที่ประสานงานกับคุณหมอให้และนัดกับทางร.พ.ให้เลย ส่วนเพื่อนๆ คนไหนกังวลว่าจะโทรกลับเบอร์นี้ได้ยังไง เพราะไม่ได้เปิดโรมมิ่ง แอบบอกเลยว่าง่ายนิดเดียว เราสามารถโทร WIFI Calling ได้ฟรีนะ !! ฟรียังไง ไปดูวิธีการกันเลยตามลิ้งค์นี้เลย https://bit.ly/2kaFehO ปกติเราก็แลกเงินไปตามเท่าที่จะใช้เผื่อๆไว้บ้าง แต่ตรงนี้ทาง SOMPO เค้าจัดการให้เลยนะ

วิธีการซื้อก็ตามนี้เลย ง่ายมากๆ เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ http://traveljoy.sompo.co.th/
จะพบกับหน้าแรก เลือกแผน Go Japan
กรอกรายละเอียดการเดินทางของเราตามในช่องเลย ตรงรหัส Promotion กรอก Code Paidonnnn ลดทันที 10% (วันนี้- 31 ธ.ค. 61)
จากนั้นจะเข้าสู่อีกหน้า ระบบจะเลือกแพคเกจที่เหมาะสมให้เรา
โดยหากเลื่อนลงมาด้านล่างจะมีอีกหลายแผนให้เลือก
โดยมีความคุ้มครองให้เปรียบเทียบกันด้วย
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ตามนี้เลย จะมีเจ้าหน้าที่คอยตอบคำถามให้จ๊ะ
Facebook : https://www.facebook.com/SompoThailand
LINE@ : http://line.me/ti/p/@sompothailand
E-Mail : [email protected]

4. แผนการเดินทาง

อันนี้ไม่มีไม่ได้เลย ไม่งั้นจะไปยังไงหละจริงมั้ย? 5555 หลักๆญี่ปุ่นจะแบ่งเป็น 9 ภูมิภาค ไล่จากด้านล่างคือ Kyushu, Shikoku, Chugoku, Kansai, Chubu, Kanto, Tohoku, Hokkaido และ Okinawa
แนะนำให้เที่ยวภูมิภาคที่ใกล้ๆกัน จะประหยัดเวลาการเดินทางและเงินไปได้มากอยู่ แต่ route ที่คนไทยนิยมไปในครั้งแรกๆก็จะเป็น Kanto-Chubu-Kansai ซึ่งก็ประกอบด้วย โตเกียว ภูเขาไฟฟูจิ และ โอซาก้านั่นเอง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบความสะดวกแต่ละคน ไม่มีอะไรตายตัวจ้า
และเราจะชอบทำเป็นตารางคร่าวๆว่าแต่ละวันจะไปที่ไหนบ้าง และพักที่ไหน
เป็นตารางคร่าวๆประมาณนี้ ปรับเปลี่ยนกันได้ตามความเหมาะสม

และอีกสิ่งที่เราทำเป็นประจำเลย คือ pin สถานที่หรือร้านอาหารที่จะไปใน Google map และ save offline map ไว้ อันนี้มีประโยชน์มากๆ บางทีไม่มีสัญญาณมือถือก็ยังใช้ได้ GPS ยังไปได้อยู่ โดยกด save จะขึ้นดาวแบบนี้ และเราสามารถเลือกเป็นสีอื่นๆให้เป็นหมวดหมู่ได้ด้วยนะ
5. ที่พัก
หลังจากรู้แล้วว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหน กี่วัน ก็ได้เวลามาหาที่พักกันแล้ว ที่พักก็มีหลายแบบทั้งโรงแรมหรู โรงแรม capsule hostel หรือบ้านเช่าเช่น Airbnb อันนี้เลือกตามความชอบและกำลังทรัพย์ที่มีเลย แนะนำให้อ่านรีวิวดีๆเยอะๆนะ คำเตือน! เราชอบมีปัญหาในการจองและสับสนวัน เคยจองแบบวันหายไปไม่มีที่พักด้วย สมมติเราไปเที่ยววันที่ 1-7 ย้ายที่พักสามครั้งเราก็จะต้องเลือกวันให้เป็น 1-3/3-5/5-7 นะ วันสุดท้ายของที่พักก่อนหน้า(check out) จะต้องเป็นวันแรกของที่พักถัดไป (check in)

เว็บไซต์ที่ใช้บ่อยคือ www.booking.com / www.airbnb.com จ๊ะ

6. การเดินทาง
อันนี้ก็อีกเรื่องสำคัญ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่การคมนาคมสะดวกมากๆ ไปไหนมาไหนสะดวกและรวดเร็ว วิธีหลักๆที่เรามักจะใช้เดินทางมีดังนี้

a. รถไฟ
รถไฟจะต้องแบ่งเป็น รถไฟระหว่างเมือง หรือระหว่างภูมิภาค ตรงนี้ก็คือ JR นั่นเอง ที่เรามักจะต้องซื้อ JR pass ซึ่ง pass เนี่ย มีเยอะมากจริงๆ ดูกันจนตาลาย ต้องศึกษาให้ดีจะประหยัดเงินและเวลาไปได้เยอะเลย JR pass มักจะมีใช้ได้กับรถบัส หรือ เรืออย่างอื่นได้ในบางสายอีกด้วย และนอกจาก JR pass ก็ยังมีบัตรรถไฟแบบอื่นๆอีกด้วย แนะนำให้ลองเช็คจากเว็บ hyperdia.com จะมีบอกวันเวลา ราคา กี่stop ได้ค่อนข้างแม่นยำเลย

อีกอย่างคือ รถไฟในแต่ละเมืองหรือรถไฟใต้ดินนั่นแหละ (แต่ JR บางสายก็จะมีวิ่งในเมืองด้วยนะ คือ JR loop line) อันนี้ก็จะง่ายๆเหมือน BTS MRT บ้านเราแหละ ดีกว่าตรงที่เราใช้บัตรแค่ใบเดียวในการเดินทางเลย เรียกว่า IC Card มีขายตามสถานี แต่ละเมืองก็จะเรียกบัตรต่างกันออกไป เช่น SUICA ICOCA PASMO บางใบจะสามารถใช้ที่เมืองอื่นๆได้อีกด้วย หรือจะมีอีกอย่างเป็น day pass เหมาไปเลยว่าเท่าไร แต่เรามักจะใช้เป็น IC card มากกว่าเพราะไม่ได้นั่งรถไฟทั้งวัน บางที่สามารถเดินได้
รูปภาพจาก http://www.jreast.co.jp/e/pass/suica.html

b. เช่ารถ และ ใบขับขี่ระหว่างประเทศ
การขับรถก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการเที่ยวตามธรรมชาตินะ เพราะเราสามารถค่อยๆไปได้ และพวงมาลัยด้านเดียวกับไทยด้วย ขับง่ายมาก บอกเลยว่าขับรถที่ไทยได้ ที่ไหนๆก็ขับได้หมด
จากประสบการณ์เราลองหามาหลายเจ้า คิดว่าที่โอเคสุดก็คือของ Toyota rent a car https://rent.toyota.co.jp/eng/ นี่แหละ
เพราะมีศูนย์อยู่แทบจะทุกเมือง บริการดี ราคาไม่แพงมากด้วย
ตอนเราไปขับรถจะมีจำกัดความเร็วอยู่ที่ 120 km/hr เราไม่สามารถขับเร็วกว่านี้ได้แล้วด้วย ก็เป็นระบบความปลอดภัยที่ค่อนข้างดีเลย
อย่าลืมทำใบขับขี่ระหว่างประเทศ และพกใบขับขี่ไทยไปด้วยนะ
c. เครื่องบิน

บางทีการเดินทางในประเทศเครื่องบินก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี ชอบมีโปรออกมาบ่อย อันนี้ต้องขยันหาหน่อย แต่เครื่องบินก็จะยุ่งยากตรงที่ต้องรีบไปเช็คอิน ตรวจโน่นนี่นั่นซึ่งเสียเวลามากกว่ารถไฟและขับรถเยอะพอสมควร

7. แลกเงิน

ไม่มีเงินไปเที่ยวไม่ได้นะจ้า แนะนำว่าแลกไปพอประมาณแล้วพกบัตร debit, credit เผื่อไว้ด้วย บางทีรูดก็คุ้มกว่านะได้แต้มๆ และเราควรโทรแจ้งธนาคารก่อนด้วยว่าจะนำบัตรไปใช้ต่างประเทศ พร้อมถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์เผื่อมีการสูญหาย

8. เสื้อผ้าและของใช้

เช็คสภาพอากาศก่อนจัดกระเป๋าด้วย สามารถเช็คจาก Google เลยก็ได้ แต่เรามักจะชอบเข้าไปดูใน Instagram ตามสถานที่ ตามเมือง ว่าคนที่เพิ่งลงรูป หรือ ig story เค้าแต่งตัวกันประมาณไหน และอย่าลืมหัวปลั๊กด้วย แต่หลายครั้งเราก็ชอบมีลืมโน่นลืมนี่ ก็ไปตายเอาดาบหน้าบ้างก็มี ญี่ปุ่นมี 7-11 ทุกที่ สบายหายห่วงDouble Click to Edit
ก็เป็น 8 ขั้นตอนง่ายๆ ทำตามนี้ ไปเที่ยวได้อย่างสบายบรื๋อแน่นอนจ้า