Mim’s table เชฟเทเบิ้ลจากคนที่ไม่เคยเรียกตัวเองว่าเชฟ ที่คิวยาวถึงปีหน้า!

9 June 2020

หากพูดถึง chef table เราอาจจะต้องนึกถึงเชฟที่มีประสบการณ์การทำอาหารมานานหลายปี แต่กับ mim’s table บอกเลยว่าไม่ใช่ มิ้ม สาวเท่วัย 26 ปี ผู้ซึ่งบอกว่าตัวเองไม่ใช่เชฟ (ก็นั่นแหละมิ้มไม่ได้เรียนเชฟเลย จบ MBA มาจ้า) ผู้มีความหลงใหลในอาหารสไตล์อเมริกันเป็นอย่างมาก ชิมอาหารมาแล้วกว่าหลายประเทศทั่วโลก จนนำอาหารจานเด็ดจากหลายๆประเทศมาเป็น inspiration ในการรังสรรค์อาหารออกมาแต่ละจานให้เราได้ทานกันในวันนี้นั่นเอง
มิ้มเขียนในเพจตัวเองเสมอว่า ไม่ใช่เชฟ มิ้มไม่เคยเรียนทำอาหารจริงจัง อาจจะมีไป take course สั้นๆบ้าง แต่หลักๆคือการทดลอง แกะสูตร ค้นคว้าจากตำราอาหารฝรั่ง มา create เมนูที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงการสนับสนุนที่ดีมากๆจากครอบครัวที่เป็นสายกินกันทั้งบ้าน บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับเธอคนนี้
เรามีนัดกันที่บ้านของมิ้มแถวย่านบางนา บรรยากาศบ้านมิ้มดีมากๆ มีทะเลสาบรอบบ้าน เงียบสงบ แค่บรรยากาศก็กินขาดแล้ว พอได้เข้ามาในบ้านและในห้องครัว เราต้องถึงกับร้องว้าว เพราะเป็นครัวในฝันของเราเลยก็ว่าได้ ห้องเล็กๆแต่มีอุปกรณ์ครบครัน เราได้นั่งหน้าเตาที่มิ้มทำอาหารเลย นีคงเป็น chef’s table ที่ใกล้ชิดที่สุดแล้วหล่ะมั้ง มิ้มจะรับแขกรอบละไม่เกิน 6 คน และต้องจองผ่านคนรู้จักหรือคนที่เคยมากินแล้วเท่านั้น เดือนนึงมิ้มจะจัดไม่กี่ครั้งเนื่องจากมีงานประจำด้วย ทำให้คิวจองยาวไปถึงปีหน้าแล้ว
มาดูที่อาหารกันดีกว่าหลังจากเกริ่นมานาน จานแรกเป็นขนมปังชิ้นพอดีคำ มิ้มบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากขนมปังที่ร้าน Don Asado และร้าน Carne ที่มิ้มชอบมาก ขนมปังอุ่นร้อนๆมาจากเตา มีความกรอบเบาๆ ข้างในเป็นไส้ชีส หอมมาก คำนี้ perfect เลย

จานต่อมาคือ Hon Maguro ชิ้นหนาๆ กินคู่กับน้ำซอสที่ทำเอง มีส่วนผสมของ น้ำส้ม น้ำพอนซึ พริก กระเทียม เลมอน และน้ำมันมะกอก ด้านบนมีเปลือกเลมอนขูด มากุโระสดๆกินคู่กับซอสเปรี้ยวเผ็ดเบาๆนี่เข้ากันดีมาก ปลาหวานฉ่ำอร่อยสุดๆ
Cured Egg with mushroom ไข่ดองเกลือในซุปเห็ด นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลองไข่ดองเกลือ เพราะร้านอื่นๆมักจะดองโชยุ ซีอิ๊ว และน้ำปลาซะมากกว่า มิ้มได้แรงบันดาลใจมาจากร้านอาหารร้านหนึ่งที่เปรู การดองเกลือสิ่งที่เราเห็นได้ชัดอย่างหนึ่งคือ สีของไข่แดงจะยังแดงสวยงามอยู่ ต่างจากซอสอื่นๆที่จะทำให้ไข่สีคล้ำลง ส่วนรสชาติ การดองเกลือเราคิดว่าได้รสสัมผัสที่ strong กว่านะ
แพนเค้กฟัวกราส์ เราซึ่งไม่กินฟัวกราส์ เลยเปลี่ยนเป็นเบคอนแทน แป้งแพนเค้กทำเอง โปะด้วยฟัวกราส์ที่กริลล์มากำลังดี (เพื่อนบอกดีงามมาก) ส่วนเบค่อนก็ดีงามเช่นกัน ทานคู่กับวิปครีมและ honey brittle (ทำจากน้ำผึ้ง น้ำตาล เกลือ baking soda น้ำเปล่า และเนย) แป้งแพนเค้กนุ่มอร่อย จานนี้อเมริกันสไตล์ที่แท้ทรู
เมนูต่อมาเป็นscallop ตัวใหญ่จุกๆ กินคู่กับกรานิต้าทำจาก ไวน์ขาว vinegar มะนาว lemon ซีอิ๊วญี่ปุ่น ต้นหอม กระเทียมบดและพริกที่คั่วเอง เผ็ดระดับนึงเลย แต่อร่อย หอยสดมาก หวานฉ่ำ
Main จานแรกของวันนี้ Lobster Pasta จัดไปเต็มๆเลยคนละก้ามใหญ่ๆ โดยมิ้มจะไม่ทำรสจัดมาก เน้นให้มาปรุงเกลือพริกไทยเพิ่มเองตามความชอบ เราแนะนำให้เติมนะจะอร่อยขึ้น ลอปสเตอร์สดอร่อยหวาน บอกเลยว่าไม่อิ่มเจอจานนี้ไปอิ่มจุกๆจ้า เส้นและกุ้งเน้นๆ
ตอนแรกนึกว่าหมดแล้ว แต่ว่ายัง มิ้มยังยกออกมาให้อีกจาน คือข้าวอบเนื้อมาในหม้อหินเกาหลีร้อนๆ เนื้อและข้าวจุกๆ มี chilli oil มาให้ใส่เพิ่มด้วย บอกเลยว่าต้องใส่ ดีงามจ้า
บอกเลยว่าวันนี้ยังไม่หมด ยังมีของหวานอีกสองจาน จานแรกเป็น marshmallow omelette คือการเอา S’more มา deconstruction นั่นเอง โดยมิ้มนำเนยไปทำ brown butterก่อนแล้วใส่marshmallow เข้าไปคลุก เสิร์ฟบน crush graham cracker กินคู่กับ Nutella panna cotta อร่อยมาก brown butter ทำให้หอมขึ้นมากๆ
อีกเมนูเป็นเมนูรีเควสเนื่องจากพวกเรากำลังอยากกินไอศกรีมของ Peyton’s brown รส breakfast bowl มิ้มก็บอกว่า มีนะ งั้นเราทำ French toast ให้กินอีกเมนูด้วยเลย โอ้โห อิ่มจุกๆไปอีก

มื้อนี้สนุกที่ได้พูดคุยกับมิ้มแบบใกล้ชิดจริงๆ ซึ่งหายากใน chef’s table ปัจจุบัน หลายๆร้านขาดความเป็นกันเองและความสนุกสนานไป เน้นการทำแบบ commercial มากกว่า บางครั้งรีบๆอธิบาย เราก็กินไปทั้งที่ยังงงๆแหละว่ามันคืออะไรว้า แต่มิ้มทำให้ความรู้สึกของการกิน chef’s table ในอดีตกลับมาอีกครั้ง เราชอบที่เห็นมิ้มทำไปมีความสุขไปกับอาหารแต่ละจาน มันส่งผ่านมาถึงคนกินได้จริงๆนะ

หากใครอยากมากิน ราคาตกอยู่ที่คนละ 2,400 บาท รับไม่เกิน 6 คน (หากจำนวนคนน้อยอาจจะราคาสูงขึ้น) ต้องจองผ่านคนรู้จักของมิ้ม หรือคนที่เคยมากินแล้วเท่านั้นนะ ถ้าใครได้รอบแล้ว อย่าปล่อยให้หลุดมือไปหล่ะ เพราะมิ้มทำน้อยมากจริงๆ นี่คืองานอดิเรกไม่ใช่งานประจำ  มิ้มมีแพลนที่จะขยาย chef’s table ของเค้าโดยใช้บริเวณที่บนโรงรถ รอชมตอนเสร็จเลย นี่ก็ได้แอบหวังว่าจะมีโอกาสได้กลับไปกินอีกรอบนะ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่

มิ้มมีเว็บไซต์ พร้อมสูตรอาหารของตัวเองด้วย เข้าไปดูและลองทำตามกันได้เลย
https://www.mimstable.com/recipes
https://www.instagram.com/mimstable/